ผลการค้นหา : 93 รายการ

แนวทางแก้ไขปัญหาปุ่ม True Online บนรีโมทกล่องทรูไอดี ทีวี Gen 3 ไม่ทำงาน

15 ม.ค. 2568 - แนวทางแก้ไขปัญหาปุ่ม True Online บนรีโมทกล่องทรูไอดี ทีวี Gen 3 ไม่ทำงาน ตรวจสอบว่าซอฟต์แวร์ของคุณว่าเป็นเวอร์ชันปัจจุบันแล้วหรือไม่ ตัวอย่าง เลขเวอร์ชัน 24.12.91.74 หรือ 24.12.91.77 โดยไปที่เมนู Settings เลือก Device Preferences และคลิกที่ About เพื่อดูข้อมูลเวอร์ชัน ขั้นตอนที่ 1: ยกเลิกการจับคู่ (Unpair) รีโมท สามารถยกเลิกการจับคู่ (Unpair) รีโมท โดยไปที่เมนู Settings เลือก Remotes & Accessories และเลือก TrueID TV G3 RC จากนั้นกด Unpair และเลือก OK เพื่อยกเลิกการจับคู่ของรีโมท ขั้นตอนที่ 2: ล้างข้อมูลบนทรูไอดี ทีวีแอปพลิเคชัน 2.1 ไปที่เมนู Settings จากนั้นเลือก Apps และคลิกที่ See All Apps ใช้รีโมทเพื่อค้นหาทรูไอดี ทีวีแอปพลิเคชัน 2.2 เลือกทรูไอดี ทีวีแอปพลิเคชันจากรายการแอปพลิเคชันทั้งหมด และกด Clear Data จากนั้นเลือก OK และกดปุ่ม Home เพื่อรีสตาร์ททรูไอดี ทีวีแอปพลิเคชัน ขั้นตอนที่ 3: การจับคู่ (Pair) รีโมท 3.1 ไปที่ Settings เลือก Pair TrueID TV remote และเลือก Pair หลังจากนั้นทำตามขั้นตอนที่ปรากฏบนหน้าจอทีวี 3.2 เมื่อเห็นข้อความ Successful Paired พร้อมหน้าจอที่แสดงผลนี้ แสดงว่าจับคู่รีโมทสำเร็จแล้ว

วิธีการใช้งานคำสั่งเสียง Far-Field Voice

15 ม.ค. 2568 - 2 ขั้นตอนการตั้งค่าการสั่งงานด้วยเสียง (Google Assistant) เพื่อรองรับภาษาไทย บนกล่อง TrueID TV Gen 3 ขั้นตอนที่1: การติดตั้ง Google Home แอปพลิเคชัน โดยดาวน์โหลดได้จาก Google Play Store (สำหรับ Android) หรือ App Store (สำหรับ iOS) ขั้นตอนการตั้งค่า 1. เมื่อติดตั้งแอปพลิเคชันเรียบร้อยแล้ว เมื่อเปิดใช้งานครั้งแรกหน้าจอ Welcome home จะปรากฏขึ้น ให้กดปุ่ม “Get Started” จากนั้นเลือกบัญชี Google เพื่อเข้าใช้งาน กด “I agree” เพื่อยอมรับเงื่อนไข และเลือก “+ Create home” 2. ตั้งชื่อ Home nickname ซึ่งสามารถใช้ได้ทั้งภาษาไทยและภาษาอังกฤษ จากนั้นกด Next แล้วกรอกที่อยู่ หากต้องการข้ามขั้นตอนนี้ สามารถกด Skip และเลือก “Continue anyway” 3. เลือกชื่อ home ที่ตั้งไว้ แล้วกด Next ที่หน้า Welcome to new Google Home เลือก Next จากนั้นเลือก Assistant และกด Save เพื่อบันทึกการตั้งค่า 4. ที่หน้า Settings แตะที่เมนู “Google Assistant” และเลือก Manage all Assistant settings จากนั้นเลือก Languages 5. เลือก “Add a language” แล้วเลือก ภาษาไทย จากนั้นกดเครื่องหมาย “<” ขั้นตอนที่2: การตั้งค่าการสั่งงานด้วยเสียงระยะไกล บนกล่อง TrueID TV Gen 3 หลังจากตั้งค่า Google Home แอปพลิเคชันเรียบร้อยแล้ว ให้ตั้งค่าการสั่งงานด้วยเสียงระยะไกล (Far-Field Voice) บนกล่อง TrueID TV Gen 3 เพื่อใช้งานโดยไม่ต้องใช้รีโมท ขั้นตอนการตั้งค่า 1. ลงชื่อเข้าใช้งานด้วยบัญชี Google หลังจากนั้นกด Sign In 2. เปิดใช้งาน Google Assistant 3. ตั้งค่าภาษาของอุปกรณ์ โดยเข้าไปที่เมนูตั้งค่า (Settings) ไปที่เมนู Device Preferences เลือกเมนู Language 4. เปิดการเข้าถึงไมโครโฟน โดยเข้าไปที่เมนูตั้งค่า (Settings) ไปที่เมนู Device Preferences เลือกเมนู Microphone Access และเลื่อนเปิดเป็น On 5. กดปุ่ม ไมโครโฟน บนรีโมทเพื่อเปิดใช้งาน Google Assistant 6. ทดสอบการใช้งาน Google Assistant เป็นภาษาอังกฤษ โดยเริ่มต้นด้วยพูดคำทักทาย เช่น “Hey Google” หรือ “Ok Google” หน้าจอจะแสดงคำแนะนำที่ด้านล่าง จากนั้นถามคำถาม เช่น "How's the weather today?" เพื่อทดสอบการทำงานของ Google Assistant

ฟังก์ชันต่างๆและการใช้งานรีโมท บนกล่องทรูไอดี ทีวี Gen3

11 ธ.ค. 2567 - ฟังก์ชันต่างๆและการใช้งานรีโมท บนกล่องทรูไอดี ทีวี Gen3 กล่องทรูไอดี ทีวี (TrueID​ TV)​ กล่องแอนดรอยด์​ทีวี ที่มาพร้อมกับซีรีส์ กีฬา สารคดี ความบันเทิง และความสนุกครบครัน และยังมาพร้อมกับรีโมทที่มีฟังก์ชันการใช้งานที่หลากหลาย ซึ่งสามารถช่วยอำนวยความสะดวกอย่างมาก รีโมททรูไอดี ทีวี มีฟังก์ชันอะไรบ้าง 1. สั่งงานด้วยเสียงง่าย ๆ ผ่านรีโมท เพียงแค่กดปุ่มไมโครโฟน ที่อยู่บนรีโมททรูไอดี จากนั้นก็ออกคำสั่งที่ต้องการ เราแนะนำว่าให้พูดโดยที่รีโมทอยู่ใกล้ ๆ ปากจะดีที่สุด คอนเทนต์ที่ต้องการจะแสดงขึ้นมาทั้งหมดให้เลือกดู 2. ปุ่มเมนูลัด เพื่ออำนวยความสะดวกต่อการรับชมคอนเทนต์, การเล่นเกม, ฟิตเนส, คาราโอเกะ และเข้าถึงสิทธิประโยชน์พิเศษสำหรับลูกค้า True Online ตัวอย่างปุ่มเมนูลัด เมนูลัด True Online เมนูลัด TrueID เมนูลัด True Visions NOW เมนูลัดแอปพลิเคชันอื่นๆ 3. ดูหนังซีรี่ย์ ได้ที่ทรูไอดี เพียงแค่กดปุ่ม Movie จากนั้นกดรีโมทเพื่อเลือกซีรี่ย์ที่ต้องการโดยเลื่อนซ้ายขวาขึ้นและลง จนเจอรายการที่ถูกใจ กด OK อีกครั้ง รายการที่ต้องการรับชมก็จะแสดงขึ้นมา 4. รายการไหน ช่องไหน เช็กได้เลย การใช้งานรีโมททรูไอดีกับการดูช่องทีวีปกติ สามารถกดหมายเลขนั้น ๆ เพื่อรับชมได้เลย แต่ถ้าหากต้องการรายละเอียดอื่นๆ เช่น แผนผังรายการ, เวลาฉาย หรือช่องไหนมีรายการอะไรน่าสนใจบ้าง ก็สามารถกดที่ปุ่ม LiveTV เพื่อแสดงข้อมูลช่องทั้งหมด พร้อมหมวดหมู่ต่างๆ เช่น กีฬา ข่าว ดิจิตอลทีวี รายการเด็ก

วิธีติดตั้งกล่องทรูไอดี ทีวี Gen3 แบบละเอียด ทำตามได้ เข้าใจง่าย

11 ธ.ค. 2567 - วิธีติดตั้งกล่องทรูไอดี ทีวี Gen3 แบบละเอียด ทำตามได้ เข้าใจง่าย สัมผัสประสบการณ์ความบันเทิงรูปแบบใหม่ที่บ้านคุณ ด้วยกล่อง TrueID TV Gen3 5 สิ่งที่ควรมีก่อนติดตั้ง ทีวีที่มีพอร์ท HDMI สาย HDMI และ สาย LAN ที่มีมาให้ในกล่องอุปกรณ์ Internet บ้านทุกเครือข่าย โทรศัพท์มือถือ Smart phone กล่องทรูไอดี ทีวี การ Set-up กล่องเบื้องต้น เชื่อมต่อสายสัญญาณอินเตอร์เน็ต หรือ สาย LAN เข้ากับกล่องทรูไอดี ทีวี เเละเราท์เตอร์อินเตอร์เน็ต(หรือถ้าไม่ใช่สาย LAN ก็สามารถเชื่อมต่อผ่านสัญญาณ WIFI ได้เช่นกัน) เชื่อมต่อสาย HDMI เข้ากับทีวี ต่อสายไฟเข้ากับตัวกล่องทรูไอดี ทีวี เสียบปลั๊กไฟเปิดการใช้งานกล่อง การเข้าใช้งานกล่องทรูไอดี ทีวี 1. กดปุ่ม เลข 2 และปุ่ม ok พร้อมกันค้างไว้ประมาณ 5-8 วินาทีแล้วปล่อย หน้าจอจะขึ้นว่าทำการเชื่อมต่อกับอุปกรณ์เรียบร้อย 2. เมื่อเชื่อมต่อรีโมทสำเร็จเเล้ว กด”เลือกภาษา” ที่ต้องการใช้งาน และเลือกว่า “ต้องการตั้งค่ากล่องผ่านมือถือหรือไม่” 3. เลือกเครือข่าย WiFi ที่ต้องการเชื่อมต่อ และใส่รหัสผ่าน 4. กดที่ ลงชื่อเข้าใช้ เป็นบัญชี Gmail และกรอกรหัสผ่าน อ่านวิธีการสมัคร Gmail คลิกที่นี่ 5. กดยอมรับเงื่อนไขการใช้บริการ และกดเปิดฟีเจอร์ (Feature) และดาวน์โหลดแอปพลิเคชันต่างๆ 6. ลงชื่อเข้าใช้ทรูไอดีด้วยบัญชีทรูไอดีเเละรหัสผ่าน หรือหากยังไม่มีบัญชี สามารถอ่านวิธีการสมัครทรูไอดีได้ คลิกที่นี่ 7. กดอนุญาต เปิดใช้งานกล้องขณะใช้งานแอปพลิเคชัน และกดเลือกบัญชีผู้ใช้งาน หรือเลือก Kids Mode 8. เลือกตั้งค่าเริ่มต้นของภาษาที่ต้องการใช้งาน 9. แนะนำอัปเดตซอฟต์แวร์ของกล่องเป็นเวอร์ชั่นปัจจุบัน อ่านวิธีการอัปเดตซอฟต์แวร์ คลิกที่นี่

รายละเอียดกล่องทรูไอดี ทีวี Gen3

11 ธ.ค. 2567 - รายละเอียดกล่องทรูไอดี ทีวี Gen3 กล่องทีวีอัจฉริยะ ความบันเทิงของบ้านแห่งอนาคต เข้าถึงความบันเทิงระดับโปร ที่นี่ที่เดียว พร้อมรองรับ WiFi ทุกค่าย กล่องทรูไอดี ทีวี Gen 3 ดีไซน์ใหม่ รองรับระบบ Android 14 เพิ่มพื้นที่จัดเก็บข้อมูล และความปลอดภัย ชิปใหม่ล่าสุด เพิ่มประสิทธิภาพประมวลผลเร็วขึ้น โดยทรูออนไลน์เป็นผู้ให้บริการรายแรกในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ที่นำมาไว้บนกล่อง AndroidTV Gen 3 มาพร้อมกล้องความละเอียด 2 ล้านพิกเซล เพื่อใช้ในการตรวจจับท่าทางการเคลื่อนไหว รองรับ AI contents รวมถึงดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน ได้มากกว่าที่เคย

วิธีแก้ไขเบื้องต้น หากพบ Error Code ขณะรับชมผ่านกล่องทรูไอดี ทีวี

15 ส.ค. 2566 - วิธีแก้ไขเบื้องต้น หากพบ Error Code ขณะรับชมผ่านกล่องทรูไอดี ทีวี หากลูกค้าพบปัญหาไม่สามารถใช้งานกล่องทรูไอดี ทีวีได้ และพบ Error Code บนหน้าจอ เราขอแนะนำวิธีแก้ไขเบื้องต้น ดังนี้ 1. Error Code : 200, C0001, C0003, C0004*, C0006, C0007, C0008, C0009, C00010, C00011 วิธีแก้ไขเบื้องต้น : กรุณาเปลี่ยนไปที่ช่องอื่นและเปลี่ยนกลับมาช่องเดิมอีกครั้ง *หมายเหตุ สำหรับ Error Code C0004 อาจเกิดจากสัญญาณอินเทอร์เน็ตไม่เสถียร เราขอแนะนำวิธีการตรวจสอบและตั้งค่าโดย Google Public DNS บนกล่องทรูไอดี ทีวี คลิก 2. Error Code : C0002, 1400 วิธีแก้ไขเบื้องต้น : กรุณาปิดและเปิดเร้าเตอร์ใหม่ หากยังพบปัญหาเดิม กรุณาติดต่อผู้ให้บริการอินเทอร์เน็ตที่ลูกค้าใช้บริการอยู่ 3. Error Code : 499, C0005 วิธีแก้ไขเบื้องต้น : กรุณาเลือกรับชมเนื้อหาหรือรายการใหม่ เนื่องจากเนื้อหาหรือรายการดังกล่าว ไม่อนุญาตให้เผยแพร่ผ่านทางอินเทอร์เน็ต หรือไม่ได้รับอนุญาตให้เผยแพร่ในประเทศไทย 4. Error Code : 430 วิธีแก้ไขเบื้องต้น : กรุณากดเลือกช่องรายการใหม่อีกครั้ง 5. Error Code : 1600, 400, 1401 วิธีแก้ไขเบื้องต้น : กรุณาล็อคเอ้าท์ออกจากระบบ และล็อคอินเข้าสู่ระบบอีกครั้ง 6. Error Code : 404 วิธีแก้ไขเบื้องต้น : กรุณากดปุ่ม OK เพื่อทำรายการอีกครั้ง และทำการปิดและเปิดกล่องใหม่ 7. Error Code : 210, 420, 421, 422, 428, 429, 600, 630, 1404, 500 วิธีแก้ไขเบื้องต้น : กรุณาติดต่อเจ้าหน้าที่ 1242 เนื่องจากเกิดขึ้นจากหลายสาเหตุ อาทิ เกี่ยวกับลิขสิทธิ์ในการเผยแพร่รายการ เกี่ยวกับการใช้งานบัญชีทรูไอดี หรือ การเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ต เป็นต้น นอกจากนี้ ลูกค้าสามารถดูคำจำกัดความของ Error Code ต่างๆ พร้อมคำอธิบายและวิธีการแก้ปัญหาเบื้องต้น คลิก หากบทความนี้เป็นประโยชน์ คลิก “ใช่” หรือ หากควรปรับปรุงบทความนี้ คลิก “ไม่” ระบบจะนำท่านสู่การช่วยเหลือเพิ่มเติมค่ะ

สร้างคอนเทนต์ให้ปังได้อย่างไรในยุคดิจิทัล - คุณอนุรักษ์ ดิษฐไชยวงศ์ (Founder of Thaimobilecenter และ อร่อยรีวิว)

08 ส.ค. 2566 - องค์ประกอบสำคัญที่ทำให้เพจ หรือเว็บไซต์ประสบความสำเร็จ - คุณอนุรักษ์ ดิษฐไชยวงศ์ (Founder of Thaimobilecenter และ อร่อยรีวิว) ----------------------------------------------------------------------------------------------------------------------- “ผู้ที่อัพโหลดคอนเทนต์บน Youtube ปัจจุบันมีจำนวนมากถึง 72 ชั่วโมง” คำถาม ? เราจะทำอย่างไรให้คอนเทนต์เราเป็นที่รู้จักและเป็นคอนเทนต์ที่ดี ? ----------------------------------------------------------------------------------------------------------------------- 💥 ปัจจุบันมีนักเขียน 4 แบบที่เป็นอยู่ในขณะนี้ 1. Hobby Writer : นักเขียนที่ทำเล่นๆเป็นงานอดิเรกแต่ไม่ได้ความสนใจและคอนเทนต์ธรรมดา 2. Artist Writer : เขียนคอนเทนต์ที่ดีแต่ยังไม่ได้น่าสนใจ 3. Copy Writer : Ads. Man นักโฆษณาที่จะสร้างให้คนสนใจ 4. Creative Writer : นักเขียนที่สร้างคอนเทนต์ที่ดีและน่าสนใจ ----------------------------------------------------------------------------------------------------------------------- 💌 สิ่งที่จะทำให้นักเขียนสร้างผลงาน Content ดีได้นั้นต้องมี... 1. Context : สภาพแวดล้อมที่เปลี่ยนไป ทันสถานการณ์ โดยต้องมี 3 ข้อหลักที่เป็นปัจจัยสังเกตุและรู้จัก คือ 1.1 Gatekeeper : ทุก ๆ คนเป็นผู้ส่งสารต่าง ๆ พวกเขาจะเป็นกลุ่มที่แชร์คอนเทนต์ของเรา 1.2 Mobile First : ปัจจุบัน Smart Phone เป็นสิ่งที่ติดตัวผู้คนจำนวนมาก โดยต้องรู้จักหลักและเป้าหมายการทำคอนเทนต์ของเราว่าจะทำอย่างไร มี 2 ประเภท คือ - Longform Content : ภาพยนตร์ ซีรี่ส์ ควรทำให้คนอ่านสอดคล้องและคิดตามต่อได้ - Shortform Content : ทำให้คนสนใจทันที เช่น Trailers ควรทำให้คนเข้าใจและสนใจทันที 1.3 Factor not Trigger : เขียนดียังไงแต่ไม่ได้กระแส แต่จะทำยังไงให้สร้างกระแสขึ้นได้ 2. Platform แบ่งเป็น 2 ประเภท 2.1 Algorithm : Google / Youtube : เขียนคอนเทนต์ในเว็บไซต์ ต้องรู้ว่าลักษณะการสร้างกระแสของ Google / Youtube เป็นอย่างไร 2.2 Human : Facebook / Twitter : เกิดจากคนแชร์ และต้องรู้ว่าเขียนบทความยังไงให้คนแชร์และสร้าง Engagement ได้ และเราทำคอนเทนต์ Target จะให้ไปทางไหน 3. Content ทำคอนเทนต์ยังไงให้ตอบโจ

หลักการคิด, Topic และ Headline ให้มีประสิทธิภาพ

08 ส.ค. 2566 - สร้างคอนเทนต์ให้ปัง ทันกระแสสังคม - คุณไกรวิน วัฒนะรัตน์ CEO & Co-founder, AHEAD ASIA งานเขียนที่ดีต้องมี 3 หลักการ เพื่อให้สามารถสร้างสรรค์งานเขียนที่ดีขึ้นได้คือ 💥 Mindset / Toolset / Skillset 💥 --------------------------------------------------------------------------------------- "Mindset" ที่ถูกต้องในงานเขียนคืออะไร เราต้องรู้จักประโยชน์ของการเขียน 8 ข้อก่อน มีดังนี้ 1. สื่อสารชัดขึ้น : หัดจดในสมุดหรือพิมพ์ใน Notepad ใส่เป็นข้อ ๆ ก็ได้ จะทำให้สามารถเขียนเรื่องราวได้ดีขึ้น 2. สร้างไอเดียใหม่ ๆ : เมื่อเราลงมือเขียนไปแล้ว จะได้ไอเดียใหม่ ๆ เพิ่มขึ้น จะวาดรูปก็ได้ไอเดียเช่นกัน 3. เรียนรู้เข้าใจสิ่งต่าง ๆ มากขึ้น : ประสบการณ์การเขียนหลาย ๆ งานของเราจะช่วยให้เราเข้าใจสิ่งต่าง ๆ ได้มากขึ้น 4. ตัดสินใจเรื่องต่าง ๆ ได้ดีขึ้น : การเขียน List เป็นข้อ ๆ แบ่งข้อดีข้อเสีย จะทำให้ตัดสินใจง่ายขึ้น 5. ฝึกสมาธิ : เหมาะกับคนไม่อยู่นิ่ง ถ้าเขียนงานแล้วจะทำให้มีสมาธิ คิดเรื่องราวที่จะเขียนง่ายขึ้น 6. ลดความเครียด เติมความสุข : การเขียนระบายต่าง ๆ บน Social Media จะทำให้ลดความเครียดออกไป 7. บริหารออกกำลังสมอง : การเขียนจะช่วยให้มีคลังคำสั่งและประสบการณ์ความคิดมากขึ้น 8. สร้างรายได้ สร้างอาชีพ : งานบล็อคเกอร์ การสร้างเพจหรืองานเขียน TrueID Creator จะสร้างรายได้กับนักเขียน เมื่อเข้าใจประโยชน์งานเขียนแล้ว จะสามารถสร้าง Mindset ต่องานเขียนของเราได้.... --------------------------------------------------------------------------------------- "การเขียนไม่ใช่พรสวรรค์ แต่เป็นความกล้าที่จะยอมรับความผิดพลาด รู้จักพัฒนาให้เป็นนิสัย" --------------------------------------------------------------------------------------- "Toolset" เครื่องมือในงานเขียนคืออะไร เข็มทิศการเขียน เข็มทิศจะเป็นแค่ Guideline ให้เราคร่าว เราก็จะสามารถสร้างสรรค์ผลงานด้วยตนเอง 💢 เข็มทิศการเขียน : 10 ข้อ 1. ตั้งเป้า ตั้งเรื่อง : Real Time Content : คอนเทนต์ในกระแส ช่วงนั้นมีกระแสอะไรบ้างจับมาจับคู่กัน เพื่อให้ได้คอนเทนต์ที่แตกต่างจากคอนเทนต์ทั่วไป 2. มองมุมคนอ่าน : ต้องรู้จัก 3E

แนะ! เขียนแนวไลฟ์สไตล์ให้ถูกต้องเหมาะกับบทบาทนักเขียน - The Momentum

08 ส.ค. 2566 - คุณอรพิณ ยิ่งยงพัฒนา และทีมบรรณาธิการ - The Momentum : แนะแนวการเขียนบทความไลฟ์สไตล์ เขียนอย่างไรให้เหมาะสมกับการเป็นบทความ --------------------------------------------------------------------------------------- การเขียนบทความแนวไลฟ์สไตล์ ส่วนสำคัญที่สุดของการเขียนคอนเทนต์ หรือ Packaging Content คือ 1. Headline หัวข้อเรื่องเป็นสิ่งที่สำคัญที่สุด โดยการตั้งชื่อเรื่องควรที่จะมีสิ่งที่เราต้องการพูดถึงหรือพระเอกของเรื่อง เช่น เมนูอาหาร สถานที่ที่เรานำมาเล่า ชื่อสินค้า เป็นต้น โดยการตั้งชื่อเรื่องบทความควรเน้นถึง SEO ประกอบ เพื่อให้การค้นหาเรื่องราว สิ่งที่เรานำมาเล่า ติดใน Google และการค้นหานั้น ๆ ง่ายขึ้น ข้อมูลที่นำมาลงเป็นหัวข้อนั้น นอกจากมีพระเอกของหัวข้อแล้ว ควรมีสาระสำคัญย่อยลงมา หมายถึง การขยายของสิ่งที่นำมาเล่า ให้ผู้อ่านเข้าใจยิ่งขึ้นว่าสิ่งนั้นคืออะไร เช่น “Ginger Farm” ร้านอาหารออแกนิค เหมาะสำหรับสายสุขภาพ : Ginger Farm (ส่วนสำคัญ) ร้านอาหารออแกนิค (ส่วนสำคัญย่อย) เป็นต้น 2. Details “การอ่านหนังสือไลฟ์สไตล์เป็นสิ่งสำคัญมาก ทำให้พื้นฐานแข็งแรงแล้วสามารถนำเสนอคอนเทนต์การเขียนได้อย่างดี” เนื้อหาที่เราต้องการเล่าเรื่องนั้น แนะนำว่านักเขียนส่วนใหญ่จะใช้การอ่านหนังสือไลฟ์สไตล์เป็นหลัก เพราะการอ่านหนังสือเหล่านี้ จะช่วยเป็นแกนในการในการสร้างพื้นฐานการเขียนและการเข้าใจในการจะเล่าเรื่องให้กับผู้รับสารเข้าใจกับสิ่งที่เราต้องการสื่อถึง สำหรับผู้ที่เพิ่งเริ่มเขียนบทความและคอนเทนต์ แนะนำการเขียนย่อหน้าแรกให้มีใจความสำคัญนั้นลงไปเลย หลังจากนั้นจะสามารถแยกย่อยเรื่องราวที่จะเล่าเรื่องเป็นฉาก ๆ ได้ง่ายขึ้น อีกทั้ง การเขียนบทความแบบพรรณาบรรยายความเป็นตัวเองมากที่สุด จะทำให้ผู้อ่านรับรู้สารและอารมณ์ร่วมตามคอนเทนต์นั้น ๆ ไปด้วย ภาษาและตัวสะกด : สิ่งนี้เป็นสิ่งสำคัญอย่างมากคือ ห้ามเขียนผิด ไม่ว่าจะเป็นชื่อคน ชื่อสถานที่ ไม่ควรผิดอย่างมากและคำทับศัพท์ บางคำที่คนเข้าใจง่ายสุดก็สามารถใส่ได้ แต่ต้องเขียนให้ถูกต้อง แนะนำสิ่งสำคัญการเขียน คือ การใช้สัญลักษณ์ "..." เน้นคำพูด ถ้า 1 เขี้ยวควรใช้สำหรับเน้นวลี เน้นคำ แต่ถ้า 2 เขี้ยว จะสำหรับการใช้คำบอกเล่าของผู้ถูกสัมภาษณ์ ภาพประกอบ ส่วนสำคัญของเรื่องที่เราม

ปูพื้นฐานการทำคอนเทนต์สุดปัง และดันคอนเทนต์ขึ้น Top 10 บนหน้า Google ด้วยเทคนิค SEO

08 ส.ค. 2566 - ปูพื้นฐานการทำคอนเทนต์สุดปัง โดย คุณสมเกียรติ ลิลิตประพันธ์ - ที่ปรึกษาและวิทยากรอิสระ เจ้าของเพจและเว็บ ไปเที่ยวกัน gothaitogether ✅ Search Engine Marketing - SEO : Search Engine Optimization 1. Organic Search : ผลการค้นหาแบบธรรมชาติ ไม่ต้องไปซื้อ ไม่ต้องไปซื้อโฆษณาจาก Google Ads. อาศัยการปรับแต่งเว็บไซต์ทั้งตัวเว็บไซต์และปัจจัยอื่น ๆ การตั้งชื่อหัวเรื่อง โดยใช้ระยะเวลาในการขึ้นอันดับส่วนใหญ่ 2. Paid Search : จ่ายเงินให้ Search Engine รวมทั้งมีการจ่ายแบบคลิ๊กต่อคลิ๊ก หรือแบบเห็นทุก ๆ 1,000 ครั้ง การจ่ายให้ Google Paid Search (Google Ads.) จะเป็นการใช้เงินซื้อ Keyword เพื่อให้เว็บเพจของเราปรากฎในตำแหน่งที่ Google จัดเตรียมไว้ให้ ผลของการซื้อนี้ จะทำให้ขึ้นอันดับรวดเร็ว หากต้องการความรวดเร็วและเป็นแบรนด์เป็นเว็บใหม่ควรซื้อแบบ Paid Search --------------------------------------------------------------------------------------- “Focus on the user and all else will follow” การทำคอนเทนต์ที่มีคุณภาพและเป็นประโยชน์ต่อผู้ติดตาม ก็จะทำให้เกิดอันดับบน Google ได้ --------------------------------------------------------------------------------------- 💚 5 ขั้นตอนการทำ SEO 💚 1. หา Keyword / Topics ที่กลุ่มเป้าหมายสนใจและคู่แข่งใช้ 1.1 ให้นึก Keyword และคำถามที่กลุ่มเป้าหมายอยากรู้และสนใจ 1.2 ใช้เครื่องมือ Research : Google Keyword Planner / Google Trends / Google Suggest *** ข้อแนะนำมือใหม่ ฝึกการใช้ Longtail Keyword เช่น Main Keywork กะเพราไก่ เพิ่ม Longtail Keyword เพิ่มความน่าสนใจไป เช่น กะเพราไก่ สูตรอร่อย เป็นต้น ใช้ Google Keyword Planner ประกอบถึงคำค้นหาที่ผู้คนสนใจ ใช้ Google Trends เพื่อดูกราฟตัวเลขการค้นหาคำนั้นๆ และเช็คจากเว็บต่างๆ ใช้ชื่ออะไร แล้วมาเช็คบน Google Suggest ว่าควรปรับแก้อย่างไรบ้าง 2. ทำ Keyword Mapping จับคู่ Keyword กับหน้าเว็บเพจ 3. สร้าง Value Content 3.1 ชื่อหัวข้อ Title ต้องมี Keyword คำนั้นอยู่ แนะนำว่าสร้างความน่าสนใจชื่อบทความ เช่น ใส่ตัวเลข 7 สิ่ง... เป็นต้น 3.2 มี Tag เป็นหัวเรื่องที่ทำให้ Google เห็นว่าเราพูดเรื่องอะไร สามารถดึงบทความเราไปขึ้นบน Google Search ได้

7 คำแนะนำ! ตั้งชื่ออย่างไรให้ติดอันดับ

08 ส.ค. 2566 - 1. ให้มี 'คำสำคัญ' อยู่ในชื่อเรื่องของคุณ คีย์เวิร์ด หรือคำสำคัญ คือ คำที่เราใช้เพื่อค้นหา หรือ เป็นคำสำคัญในบทความนั้นๆ อาทิเช่น กาแฟ ร้านอาหารไทย อาหารไทย หนังโรแมนติคคอมเมดี้ วงการเคป็อบ เพลงร็อค แร็ปเปอร์ เพื่อให้ง่ายต่อการค้นหา 2. ตั้งชื่อเรื่องเป็นแนวคำถาม กระตุ้นความอยากรู้ การตั้งชื่อเรื่องให้เป็นแนวคำถามนั้น ก็เพื่อให้เกิดความน่าสนใจและอยากติดตามบทความนั้นๆมากขึ้นนั่นเอง ยกตัวอย่างเช่น - กาแฟที่ดีที่สุดในภูเก็ตคืออะไร ? - สายการบินอะไรที่ดีที่สุดในการเดินทางไปกรุงเทพฯ ? - ภาพยนตร์เรื่องใดที่สนุกที่สุดใน ปี 2020 ? - ภาพยนตร์เรื่องใดที่น่ากลัวที่สุดใน Netflix ? 3. ให้มีคีย์เวิร์ดของคุณอยู่ทั้งในย่อหน้าแรก ย่อหน้ารอง หัวข้อย่อย ภาพคำอธิบายใต้รูป ใช้ซ้ำมากๆเท่าที่จะทำได้ การใช้คีย์เวิร์ด หรือ คำค้นหาที่เกี่ยวข้องกับบทความของเราบ่อยๆ ในทุกๆที่ที่สามารถทำได้นั้น ก็เพื่อให้ระบบค้นหาดึงคำของเราออกมา ยิ่งมีเยอะ มีมากเท่าไร ระบบจะระบุให้บทความของคุณมีความเกี่ยวข้องหรือเชื่อมโยงกับคำที่ถูกใช้ค้นหา อย่างเช่น ชื่อเรื่อง/คีย์เวิร์ด : กาแฟที่ดีที่สุดในเชียงใหม่คืออะไร? ย่อหน้ารอง : คู่มือสำหรับผู้ที่ไม่ดื่มกาแฟ ในร้านกาแฟที่ดีที่สุดในเชียงใหม่ ชื่อเรื่อง/คีย์เวิร์ด : 20 ร้านเพื่อค้นหากาแฟที่ดีที่สุด ย่อหน้ารอง : เพื่อค้นหากาแฟที่ดีที่สุดในเชียงใหม่ ฉันแวะร้านกาแฟ 20 แห่ง ตลอดการเดินทางที่นั่น ชื่อเรื่อง/คีย์เวิร์ด : ในทุกๆวัน ย่อหน้ารอง : ฉันสามารถดื่มกาแฟที่ดีที่สุดในเชียงใหม่ได้ในทุกๆวันตลอดการเดินทางของฉัน ชื่อเรื่อง/คีย์เวิร์ด : ราคาที่เหมาะสม ย่อหน้ารอง : การซื้อกาแฟที่ดีที่สุดไม่ใช่แค่ค้นหาสถานที่ที่เหมาะสมเท่านั้น แต่ยังต้องมีราคาที่เหมาะสมด้วย ชื่อเรื่อง : ราคาดีที่สุด ย่อหน้ารอง : ค้นพบกาแฟที่ราคาดีที่สุดได้ที่เชียงใหม่ 4. แบ่งบทความออกเป็นส่วนๆ ไม่ให้ติดกันเกินไป โดยปกติคนเราจะอ่านหนังสือจากบนลงล่างและจากซ้ายไปขวา ดังนั้นเพื่อให้อ่านง่าย ค้นหาง่าย เราควรสร้างหัวข้อใหญ่ หัวข้อย่อย แบ่งประโยค แบ่งคำ และเว้นวรรคบทความของคุณให้มีช่องเว้นว่างไว้ ไม่ติดกันเกินไป 5. ให้แน่ใจนะ ว่าบทความของคุณมีประโยชน์กับผู้อ่านจริง มาถึงตรงนี้แล้ว คุณต้องมั่นใจว่าบทความของคุณนั้นมีประโยชน์จริงกั

วิธีสร้างสรรค์บทความให้ตรงและติด SEO กันได้ยอดวิวง่าย ๆ เพียง 3 ขั้นตอน

08 ส.ค. 2566 - TrueID Creator วันนี้ ทีมบรรณาธิการมีทริคเด็ด ๆ สั้น ๆ มาฝากเพื่อน ๆ ทุกคนกัน กับการสร้างสรรค์บทความของคุณ ให้ติด SEO แบบง่าย ๆ เพียง 3 ขั้นตอนเท่านั้น พร้อมกันหรือยัง ถ้าพร้อมแล้ว ตามแอดมาเลยจ้า ขั้นตอนที่ 1 : ชื่อเรื่องเป็นสิ่งสำคัญ แน่นอนว่าหัวข้อเรื่องก็เสมือนประตูบ้านอย่างหนึ่งที่จะแสดงให้เห็นว่าน่าเข้าไปภายในบ้านหรือไม่ การตั้งชื่อเรื่องบทความของคุณเองก็เช่นกัน แต่เราจะทำยังไงให้ชื่อบทความเราติด SEO บน Google ได้ สิ่งแรกเราต้องทำการค้นหาว่าคำค้นหาหลักของเราคืออะไร เช่น เราจะเขียนบทความเกี่ยวกับสถานที่ท่องเที่ยวในจังหวัดเชียงใหม่ แน่นอนว่า คำค้นหาหลักคือ เชียงใหม่ ท่องเที่ยว เราจะใช้ 2 คำนี้ในชื่อบทความ และย่อยลงมาคือคำที่น่าสนใจ เช่น ปักหมุด, แจกวาร์ป, พิกัดเด็ด, ไม่ไปไม่รู้, พิกัดลับ เป็นต้น คำกลุ่มนี้จะเป็นคำที่สร้างความน่าสนใจให้ผู้อ่านอยากกดเข้ามาอ่านบทความของคุณเอง **ค้นหาจาก Google จะสามารถเห็นตัวช่วยคำค้นหาอื่น ๆ นั่นแหละคือ คำที่เราสามารถนำมาใช้ประกอบชื่อบทความได้เลย ภาพด้านบนก็คืออีกตัวช่วยหนึ่งในการตั้งชื่อบทความ นั่นคือ Related Search คำค้นหาที่เกี่ยวข้องกับคำหลักที่เราค้นหา เพียงเท่านี้ ขั้นตอนแรก เราก็สามารถตั้งชื่อบทความให้ตรงกับ SEO ได้แล้ว เช่น "ปักหมุด 10 ที่เที่ยวเชียงใหม่ หน้าฝน บรรยากาศสุดฟิน ธรรมชาติสุดเลิศ" ขั้นตอนที่ 2 : ย่อหน้าแรกของบทความ สำคัญมาก ขั้นตอนที่ 2 นี้ ไม่ควรลืมอย่างยิ่งเลย ไม่อย่างงั้นตกม้าตายแน่นอน ในย่อหน้าแรกของบทความของคุณ ควรมีคำค้นหารวมถึงแกนหลักของบทความอยู่ในย่อหน้าแรกอีกด้วย เราจะทำบทความที่เที่ยวเชียงใหม่ ย่อหน้าแรกควรมีคำว่า ที่เที่ยว และเชียงใหม่ประกอบในย่อหน้าแรกของบทความ ข้อนี้มีตัวช่วยอย่าง Google Trend ใช้ประกอบว่าเทรนด์ตอนนี้ของคำค้นหาที่เราจะใช้เป็นอย่างไร ตามภาพด้านล่าง จะเห็นว่าคำว่าเชียงใหม่ มีกราฟที่ขึ้น ๆ อยู่ เหมาะที่จะสร้างสรรค์บทความเชียงใหม่แน่นอน อีกตัวช่วยใน Google Trend คือคำที่เกี่ยวข้อง จะแสดงผลให้เห็นว่าคำไหนที่ประกอบเชียงใหม่มาแรงแค่ไหน อันดับ 1 เลย ที่เที่ยวเชียงใหม่หน้าหนาว 3 คำประกอบนี้ มีการค้นหามาแรงถึง 300% เลยทีเดียว (ภาพประกอบค้นหาเมื่อวันที่ 13 พฤศจิกายน 2563) ขั้นตอนที่ 3 : ไฟล์ภาพต้องเปลี่ยน งง ใช่ไหม หมายถึงอย่างไร ข้อนี้ขอบอกว่

TrueID Creator : อบรมเทคนิคการทำคอนเทนต์รีวิวอาหารให้ปัง! โดยผู้บรรยายพิเศษจาก Starvingtime

08 ส.ค. 2566 - ✅ อบรมเทคนิคการทำคอนเทนต์รีวิวอาหารให้ปัง! โดยผู้บรรยายพิเศษ คุณญี่ปุ่น ปิยกมล ตำแหน่ง Associate Account Director & Editor จาก Starvingtime โดยมี Agenda ขั้นตอน ดังต่อไปนี้ หลักคิดเบื้องต้นเริ่มต้นก่อนทำคอนเทนต์ จะแบ่งออกเป็น 3 อย่างที่สำสัญด้วยกัน คือ 1. เข้าใจคน (Audience) ประกอบไปด้วย C-L-I-P - C คือ Channel ช่องทางที่เราจะนำบทความไปเผยแพร่ เช่น Facebook IG Twitter Youtube เป็นต้น - L คือ Language ระดับภาษาที่เราจะใช้สื่อสารกับผู้ที่อ่านบทความของเราให้กระชับและเหมาะสมกับแพลตฟอร์มแต่ละช่องทางที่เราใช้ให้เหมาะสม - I คือ Interest / Inside ความสนใจของเราในแต่ละเรื่อง และ รู้จริงในแต่ละเรื่องที่เราต้องการนำเสนอ - P คือ Problem เราต้องรู้ว่าปัญหาของผู้ที่เข้ามาอ่านบทความของเราคืออะไร 2. เข้าใจเรื่อง ประกอบไปด้วย W-T-F และ 3E - W คือ What ต้องการเล่าอะไร - T คือ Tone ต้องการเล่าแบบไหน ลักษณะไหน - F คือ Find your story ต้องมีเรื่องราวประกอบซึ่งจะทำให้น่าสนใจมากยิ่งขึ้น - E คือ Educate เป็นบทความแบบไหนเช่น ให้ความรู้ - E คือ Entertain เป็นบทความที่ให้ ความบันเทิง - E คือ Empower เป็นบทความที่ทำให้เกิดความเชื่อมั่น 3. เข้าใจเล่า ประกอบไปด้วย A-I-D-A - A คือ Attraction ทำให้คนสนใจ - I คือ Information ให้ข้อมูลให้คนสนใจ และข้อมูลต้องถูกต้อง - D คือ Desire ให้ข้อมูลโดยกระตุ้นความต้องการของผู้อ่านด้วย - A คือ (Call - to) Action ทำตามสิ่งที่ต้องการหรือตามรอยบทความนั้น ๆ เทคนิคการถ่ายภาพอาหาร ควรแบ่งเป็น 3 ส่วน ได้ทั้งแนวตั้งและแนวนอน เล็งอาหารให้ตรงจุด จุดไหนก็ได้แต่ต้องบาลานซ์ และสีของอาหารควรเป็นสีจริงของอาหารควรเป็นแสงธรรมชาติไม่แนะนำให้แต่งภาพจนเกินไป แนะนำควรถ่ายภาพใกล้ ๆ ให้เหลือพื้นที่ข้าง ๆ ให้น้อยที่สุด และ ไม่ควรมีสิ่งที่ไม่เกี่ยวข้องอยู่ในเฟรม การออกแบบปกและข้อความ (Copy) ควรใส่ Text และคำที่เหมาะสมอ่านแล้วเข้าใจง่าย ✅ Do and Don’t ข้อควรปฏิบัติในการรีวิวอาหาร ทีมบรรณาธิการจาก Food.trueid.net โดยคุณฝ้าย Senior Editor : Lifestyle content มีวิธีและขั้นตอนที่น่าสนใจมาแนะนำ ดังต่อไปนี้ ✅ ทำคอนเทนต์อย่างไรให้ปัง บน TrueID ควรมีปัจจัยที่สำคัญดังต่อไปนี้ การตั้งชื่อค

5 วิธีแก้ไขหากพบ "ไม่มีสัญญาณอินเทอร์เน็ต" บนหน้าจอกล่องทรูไอดี ทีวี

03 ส.ค. 2566 - 5 วิธีแก้ไขหากพบการแจ้งเตือน "ไม่มีสัญญาณอินเทอร์เน็ต" บนหน้าจอกล่องทรูไอดี ทีวี หากพบปัญหาขณะรับชมกล่องทรูไอดี ทีวี โดยมีการแจ้งเตือนว่า "ไม่มีสัญญาณอินเทอร์เน็ต" เราขอแนะนำวิธีแก้ปัญหาเบื้องต้นเพียง 5 วิธีง่ายๆ ลูกค้าสามารถเลือกวิธีใดวิธีหนึ่งในการแก้ไขปัญหาเบื้องต้น เพื่อไม่ให้เสียเวลารอคอยและเสียอรรถรสในการรับชม 5 วิธีแก้ไขเบื้องต้น ดังนี้ วิธีที่ 1 ปิด-เปิด กล่องทรูไอดี ทีวี และตรวจสอบว่าเป็นเวอร์ชันอัปเดตแล้ว วิธีที่ 2 ปิด-เปิด หรือดึงปลั๊กไฟเราเตอร์อินเทอร์เน็ต วิธีที่ 3 ตรวจสอบความเร็วอินเทอร์เน็ตบนกล่องทรูไอดี ทีวี ด้วยรีโมททีวี หรือสามารถดูวิธีการตรวจสอบความเร็วอินเทอร์เน็ตด้วยตัวเอง คลิก วิธีที่ 4 ตรวจเช็กสาย HDMI ที่เชื่อมทีวี กับกล่องทรูไอดีทีวี วิธีที่ 5 ตรวจเช็กสาย LAN ที่เชื่อมเราเตอร์ กับกล่องทรูไอดีทีวี (กรณีลูกค้าใช้อินเทอร์เน็ตผ่านสาย LAN แทนการใช้สัญญาณ WiFi) นอกจากนี้ ลูกค้าสามารถตรวจสอบและเปลี่ยนสัญญาณ WiFi เป็น​ 5G ที่กล่องทรูไอดี​ ทีวี เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการรับชม และช่วยแก้ไขปัญหาภาพกระตุก ภาพไม่ชัด​ หรือค้าง ช้า​ คลิก

5 วิธีแก้ปัญหาสัญญาณภาพและเสียงบนกล่องทรูไอดี ทีวี

03 ส.ค. 2566 - 5 วิธีแก้ปัญหาสัญญาณภาพและเสียงบนกล่องทรูไอดี ทีวี หากพบปัญหาขณะรับชมกล่องทรูไอดี ทีวี เช่น มีเสียงแต่ไม่มีภาพ หรือ มีภาพแต่ไม่มีเสียง เราขอแนะนำวิธีแก้ปัญหาเบื้องต้นเกี่ยวกับสัญญานภาพเเละเสียง เมื่อเกิดปัญหาระหว่างการใช้งานกล่องทรูไอดี ทีวี เพียง 5 วิธีง่ายๆ ลูกค้าสามารถเลือกวิธีใดวิธีหนึ่งในการแก้ไขปัญหาเบื้องต้น เพื่อไม่ให้เสียเวลารอคอย และเสียอรรถรสในการรับชม 5 วิธีแก้ปัญหาเบื้องต้น ดังนี้ ตรวจสอบสัญญาณบนเราเตอร์อินเทอร์เน็ต ว่าอยู่ในสถานะพร้อมใช้งาน ตามรูป วิธีที่ 1 ปิด-เปิด กล่องทรูไอดี ทีวี และตรวจสอบว่าเป็นเวอร์ชันอัปเดตแล้ว วิธีที่ 2 ปิด-เปิด หรือดึงปลั๊กไฟเราเตอร์อินเทอร์เน็ต วิธีที่ 3 ตรวจสอบความเร็วอินเทอร์เน็ตบนกล่องทรูไอดี ทีวี ด้วยรีโมททีวี หรือสามารถดูวิธีการตรวจสอบความเร็วอินเทอร์เน็ตด้วยตัวเอง คลิก วิธีที่ 4 ตรวจเช็กสาย HDMI ที่เชื่อมทีวี กับกล่องทรูไอดีทีวี วิธีที่ 5 ตรวจเช็กสาย LAN ที่เชื่อมเราเตอร์ กับกล่องทรูไอดีทีวี (กรณีลูกค้าใช้อินเทอร์เน็ตผ่านสาย LAN แทนการใช้สัญญาณ WiFi) นอกจากนี้ ลูกค้าสามารถตรวจสอบและเปลี่ยนสัญญาณ WiFi เป็น​ 5G ที่กล่องทรูไอดี​ ทีวี​ คลิก หากบทความนี้เป็นประโยชน์ คลิก “ใช่” หรือ หากควรปรับปรุงบทความนี้ คลิก “ไม่” ระบบจะนำท่านสู่การช่วยเหลือเพิ่มเติมค่ะ

วิธีการจัดการ WiFi บนกล่องทรูไอดี ทีวี​ เพื่อการรับชมที่มีประสิทธิภาพ

27 มิ.ย. 2566 - วิธีการจัดการ WiFi บนกล่องทรูไอดี ทีวี​ เพื่อการรับชมที่มีประสิทธิภาพ เพื่อเป็นการเพิ่มประสิทธิภาพในการรับชมหนัง ซีรี่ส์ กีฬา ฯลฯ บนกล่องทรูไอดี ทีวี ขอแนะนำวิธีการจัดการ WiFi บนกล่องทรูไอดี เพื่อการรับชมที่มีประสิทธิภาพ และป้องกันการเกิดปัญหา เช่น รับชมรายการสดแล้วภาพกระตุก ภาพไม่ชัด หรือค้างช้า เพียง 2 ขั้นตอน ดังนี้ ขั้นตอนที่ 1 ตรวจสอบความแรงและคุณภาพสัญญาณ WiFi ที่กล่องทรูไอดี ทีวี คลิก ค่าความแรงของสัญญาณ WiFi หรือค่า RSSI ที่แสดงขึ้นมา **ยิ่งมีค่าติดลบน้อย (ใกล้ 0) คุณภาพสัญญาณยิ่งดี** 0 ถึง -70 (สีเขียว) สัญญาณดีมาก -71 ถึง -79 (สีเหลือง) สัญญาณดีปานกลาง -80 หรือต่ำกว่า (สีแดง) สัญญาณไม่ดี ขั้นตอนที่ 2 ตรวจสอบและเปลี่ยนสัญญาณ WiFi เป็น​ 5G ที่กล่องทรูไอดี​ ทีวี​ คลิก เพิ่มเติม ดูคู่มือการใช้งาน​ วิธีเปลี่ยนชื่อและรหัสผ่าน Wi-Fi เน็ตบ้าน ผ่าน True iService คลิก หากบทความนี้เป็นประโยชน์ คลิก “ใช่” หรือ หากควรปรับปรุงบทความนี้ คลิก “ไม่” ระบบจะนำท่านสู่การช่วยเหลือเพิ่มเติมโดยเจ้าหน้าที่ทรูไอดีค่ะ

วิธีตรวจสอบความแรงและคุณภาพสัญญาณ WiFi ที่กล่องทรูไอดี ทีวี

27 มิ.ย. 2566 - วิธีตรวจสอบความแรงและคุณภาพสัญญาณ WiFi ที่กล่องทรูไอดี ทีวี ลูกค้าสามารถตรวจสอบความแรงและคุณภาพสัญญาณ WiFi ที่กล่องทรูไอดี ทีวีในเบื้องต้น เพื่อเป็นการเพิ่มความมั่นใจในประสิทธิภาพการรับชม และเป็นการช่วยแก้ไขปัญหาเบื้องต้น เช่น​ รับชมรายการสดแล้วภาพกระตุก ภาพไม่ชัด​หรือค้างช้า​ การตรวจสอบสัญญาณ WiFi ลูกค้าสามารถเลือกวิธีการตรวจสอบสัญญาณ WiFi ได้ 2 วิธี ดังนี้ วิธีที่ 1 ตรวจสอบผ่านรีโมท 1.1 ขณะที่รับชมทีวี กดปุ่ม Guide ที่เมนูค้างไว้ ประมาณ 8 วินาที 1.2 หน้าจอจะแสดงคุณภาพสัญญาณที่รับชมขณะนั้น มาให้ หากสัญญาณปกติจะแสดงข้อความว่า “ยอดเยี่ยม” (Excellent) วิธีที่ 2 ตรวจสอบด้วยตนเอง 2.1 กดไปที่เมนู การตั้งค่า (Setting) แล้วเลือก เครือข่ายและอินเตอร์เน็ต (Network & Internet) จากนั้นกด OK ที่สัญญาณ Wi-Fi ที่เชื่อมต่ออยู่ในขณะนั้น 2.2 ตรวจสอบความแรงและคุณภาพสัญญาณที่เมนู ความแรงสัญญาณ (Signal strength) หากสัญญาณปกติ จะแสดงข้อความว่า “ยอดเยี่ยม” (Excellent) 2.3 ตรวจสอบที่เมนู เครือข่ายและอินเตอร์เน็ต (Network & Internet) แล้วเลือกสถานะอินเตอร์เน็ต (Internet Properties) หน้าจอจะแสดงค่าความแรงของสัญญาณ WiFi หรือ RSSI ค่า RSSI แสดง **ยิ่งมีค่าติดลบน้อย (ใกล้ 0) คุณภาพสัญญาณยิ่งดี** 0 ถึง -70 (สีเขียว) สัญญาณดีมาก -71 ถึง -79 (สีเหลือง) สัญญาณดีปานกลาง -80 หรือต่ำกว่า (สีแดง) สัญญาณไม่ดี หมายเหตุ: ค่า RSSI ที่มากหรือน้อยอาจขึ้นอยู่กับ ระยะห่าง จุดวาง และสิ่งกีดขวาง หากพบค่าสัญญาณ -80 หรือต่ำกว่า แนะนำติดตั้งอุปกรณ์เสริม เช่น True Gigatex Mesh WiFi เพื่อประสิทธิภาพการรับชมที่ดียิ่งขึ้น คลิก 2.4 นอกจากนี้ สามารถตรวจสอบเพิ่มเติมที่เมนู การตั้งค่า (Setting) แล้วไปที่ ตรวจสอบเบื้องต้น (System health check) หากหน้าจอแสดงสีเขียว หรือ “ผ่าน” (Passed) แสดงว่าสัญญาณ WiFi ที่ใช้รับชมปกติ หมายเหตุ​ : หากลูกค้าลืมรหัส​ Password ของกล่อง​ WiFi สามารถติดต่อผู้ให้บริการสัญญาณ​ WiFi นั้นๆได้​ และสำหรับลูกค้า​ True​ Online คลิกที่นี่ ทั้งนี้ เมื่อตรวจสอบแล้ว หากพบปัญหาค่าสัญญาณไม่ดี ไม่แสดงสีเขียว หรือไม่แสดง “ยอดเยี่ยม” ลูกค้าสามารถเปลี่ยนสัญญาณ WiFi เป็น 5G

วิธีตรวจสอบและเปลี่ยนสัญญาณ WiFi เป็น​ 5G ที่กล่องทรูไอดี​ ทีวี​

26 มิ.ย. 2566 - วิธีตรวจสอบและเปลี่ยนสัญญาณ WiFi เป็น​ 5G ที่กล่องทรูไอดี​ ทีวี​ การเปลี่ยนสัญญาณ WiFi เป็น 5G เป็นการเพิ่มประสิทธิภาพการรับชมผ่านกล่องทรูไอดี ทีวี และช่วยแก้ไขปัญหาการรับชมเบื้องต้น​ เช่น​ รับชมรายการสดแล้วภาพกระตุก ภาพไม่ชัด​ หรือค้างช้า​ วิธีการเปลี่ยนการเชื่อมต่อสัญญาณ WiFi เป็น 5G เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการรับชม 1. กดที่เมนู การตั้งค่า (Setting) ที่มุมขวามือบน 2. เลือก เครือข่ายและอินเตอร์เน็ต (Network & Internet) 3. ทำการตรวจสอบเครือข่ายที่ใช้งานได้ (Available Networks) ก่อน โดยดูได้จากชื่อสัญญาณที่ปรากฏบนหน้าจอ 4. หากเดิมจับสัญญาณ WiFi 2G หรือ WiFi 2.4G ให้สลับเปลี่ยนเป็น WiFi 5G โดยกดเลือกไปที่ ดูทั้งหมด (See all) แล้วเลือก เชื่อมต่อ WiFi 5G แทน 5. เลือกชื่อ สัญญาณ WiFi 5G ภายในบ้าน ตามชื่อที่ได้ตั้งค่าไว้ หมายเหตุ : ชื่อสัญญาณ WiFi แต่ละสถานที่อาจจะไม่เหมือนกัน รวมถึงชื่อสัญญาณ WiFi 2G หรือ WiFi 2.4G 6. ใส่รหัส​ Password ของกล่อง​ WiFi ที่ตั้งค่าไว้ 7. เมื่อเชื่อมต่อสำเร็จ หน้าจอจะขึ้นว่า Connected sucessfully 8. ตรวจสอบโดยดูที่ชื่อสัญญาณ WiFi 5G ที่ปรากฏที่หน้าจอ การยกเลิกการเชื่อมต่อ สัญญาณ WiFi 2G หรือ WiFi 2.4G เราแนะนำให้ลูกค้าทำการยกเลิกการเชื่อมต่อสัญญาณ WiFi 2G หรือ WiFi 2.4G เพื่อให้อุปกรณ์เลือกรับสัญญาณ WiFi 5G เท่านั้น 1. เข้าไปที่ เครือข่ายและอินเตอร์เน็ต (Network & Internet) แล้วกดเลือกสัญญาณ WiFi 2G หรือ WiFi 2.4G ตามที่ปรากฏบนหน้าจอ 2. กด Forget Network เพื่อยกเลิกสัญญาณ 3. ตรวจสอบสัญญาณ WiFi ที่เชื่อมต่อแล้ว โดยเข้าไปที่ เครือข่ายและอินเตอร์เน็ต (Network & Internet) 4. ชื่อสัญญาณ WiFi 5G ปรากฏที่หน้าจอ เมื่อเชื่อมต่อสัญญาณ WiFi 5G เรียบร้อย สามารถเปิดรับชมรายการทีวีตามต้องการ หากลูกค้าลืมรหัส​ Password ของกล่อง​ WiFi สามารถติดต่อผู้ให้บริการสัญญาณ​ WiFi นั้นๆได้​ และสำหรับลูกค้า​ True​ Online คลิกที่นี่ ทั้งนี้ ลูกค้าสามารถตรวจสอบความแรงและคุณภาพสัญญาณ WiFi คลิกที่นี่ ความแรงและคุณภาพสัญญาณ WiFi ควรมีค่าความแรงของสัญญาณ (RSSI) อยู่ที่ 0 ถึง -70 (ลบ 70) ซึ่งจะแสดงสีเขียว หรือ “ยอดเยี่ยม” (Excellent) หมายถึงสัญญาณ WiFi ดีมาก หากบทความนี้เป็นประโยชน์ คลิก “ใช่”

วิธีอัปเดตแอปพลิเคชัน iQIYI และ WeTV บนกล่องทรูไอดี ทีวี

19 มิ.ย. 2566 - วิธีอัปเดตแอปพลิเคชัน iQIYI และ WeTV บนกล่องทรูไอดี ทีวี หากลูกค้าดูหนัง ซีรีส์ หรือคอนเท้นต์ความบันเทิงต่างๆ จากแอปพลิเคชัน iQIYI และ WeTV ผ่านกล่องทรูไอดี ทีวี ลูกค้าสามารถอัปเดตแอปพลิเคชันที่อยู่บนกล่องทรูไอดี ทีวี โดยทำได้ 2 วิธี คือ วิธีที่ 1 การอัปเดตแอปพลิเคชันผ่าน Google Play เข้าไปในกล่องทรูไอดี ทีวี ในหน้าแรก (Home) > แอป (Apps) > Google Play > ค้นหาแอปที่ต้องการอัปเดต > หากยังไม่ได้อัปเดตจะมีปุ่มคำว่า "Update"1. ไปที่หน้าแรก (Home) > แอป (Apps) > Google Play 2. พิมพ์คำค้นหา ชื่อแอปพลิเคชันที่ต้องการอัปเดต เช่น iQIYI เเล้วกดเข้าไป 3. หากแอปพลิเคชันยังไม่ได้อัปเดตเป็นเวอร์ชั่นล่าสุดจะพบว่าคำว่า "Update" > ทำการกดอัปเดตและรอระบบทำการอัปเดต วิธีที่ 2 การอัปเดตแอปพลิเคชั่นผ่านบัญชี Google ที่ล็อคอินบนกล่องทรูไอดี เข้าไปในกล่องทรูไอดี ทีวี ในหน้าแรก (Home) > มุมขวาบนคลิกรูปโปรไฟล์บัญชี Google > Manage apps & games > Updates > Updates pending > Update all 1. ไปที่หน้าแรก (Home) > แอป (Apps) > Google Play 2. มุมขวาบนคลิกรูปโปรไฟล์บัญชี Google > Manage apps & games > Updates 3. กดเลือก Updates pending > Update all เพียงเท่านี้ แอปพลิเคชัน iQIYI และ WeTV ก็พร้อมนำความบันเทิงต่างๆสู่หน้าจออย่างไม่ติดขัดแล้วค่ะ หมายเหตุ: กรณีที่แอปพลิเคชัน WeTV ยังพบปัญหาอยู่แม้จะทำการอัปเดตแล้ว สามารถติดต่อ WeTV Support เพื่อตรวจสอบต่อไป คลิก หากลูกค้ายังไม่มีบัญชีทรูไอดี ดูวิธีสมัครง่ายๆ คลิก หรือต้องการดูรายละเอียดเพิ่มเติมเพื่อซื้อแพ็กเกจ iQIYI และ WeTV หากบทความนี้เป็นประโยชน์ คลิก “ใช่” หรือ หากควรปรับปรุงบทความนี้ คลิก “ไม่” ระบบจะนำท่านสู่การช่วยเหลือเพิ่มเติมโดยเจ้าหน้าที่ทรูไอดีค่ะ